อาหารแคลเซียมสูง กลุ่มอาการ PMS ก่อนมีประจำเดือนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยมากมักมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิด จึงควรรับประทานวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคลเซียม ซึ่งมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการ PMS โดยตรง ได้แก่ นมและผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด ปลาตัวเล็ก ผักสีเขียวเข้ม 3. คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน สำหรับผู้ที่มักมีอาการ PMS ในรูปแบบอยากทานอาหารมากผิดปกติ ควรเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนมากกว่าคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เพราะมีเส้นใยอาหารสูง ทำให้รู้สึกอิ่มนาน และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ จึงสามารถควบคุมความหิวระหว่างวันได้ดียิ่งขึ้น อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ได้แก่ ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต คีนัว ลูกเดือย 4. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสประกอบด้วยกรดไขมัน omega-6 และเป็นสารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมน จึงสามารถนำมาใช้ป้องกันอาการต่างๆ ก่อนมีประจำเดือน เช่น ปวดศีรษะ เจ็บเต้านม หรือลดอารมณ์เหวี่ยงวีนได้เป็นอย่างดี อาจพบอาการปวดท้องหรือท้องเสียในบางราย อย่างไรก็ตาม น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดด้วย ผู้ป่วยที่มีประวัติเลือดออกผิดปกติ และผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือทำทันตกรรม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มรับประทาน
กินลูกพรุนเป็นประจำ ลูกพรุนไม่เพียงแต่มีไฟเบอร์สูงเท่านั้น แต่ยังมีซอร์บิทอล (Sorbital) ซึ่งเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติที่จะช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ลูกพรุน 100 กรัม มีซอร์บิทอล 14. 7 กรัม แต่ถ้าคุณไม่ชอบรสชาติของลูกพรุนก็สามารถดื่มน้ำลูกพรุนแทนได้ แม้ว่าน้ำลูกพรุนจะมีไฟเบอร์น้อยกว่าแต่รับรองว่าช่วยแก้ท้องผูกได้แน่นอน 5. สมุนไพรช่วยเป็นยาระบายอ่อนๆ ลูกซัด (Fenugreek), ไซเลี่ยมฮัสค์หรือเทียนเกล็ดหอย เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาระบายและทำให้อุจจาระนิ่มลง ดังนั้นถ้าคุณมีอาการท้องผูกจึงควรลองกินสมุนไพรเหล่านี้และดื่มน้ำตามมากๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ 6. กินโยเกิร์ต หากคุณมีอาการท้องผูกแนะนำให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนม แต่สำหรับโยเกิร์ตเป็นข้อยกเว้นเพราะโยเกิร์ตมีโปรไบโอติกอย่าง Bifidobacterium longum หรือ Bifidobacterium animalis ซึ่งได้มีการศึกษาพบว่าแบคทีเรียเหล่านี้สามารถช่วยกระตุ้นให้ขับถ่ายบ่อยขึ้น
หากอาการก่อนมีประจำเดือนเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่สามารถควบคุมอาการได้และยังคงอยู่หรือพัฒนาไปจนเกิด กลุ่มอาการรุนแรงก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Dysphoric Disorder: PMDD) ซึ่งมีความรุนแรงทางด้านอารมณ์มากกว่าอาการก่อนมีประจำเดือน โดยมีอาการผิดปกติทางกายและใจอย่างรุนแรง เช่น ซึมเศร้าอย่างมาก อารมณ์แปรปรวนง่าย โกรธง่าย ไม่มีสมาธิ อ่อนเพลีย วิตกกังวลและเครียด ซึ่งควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว สามารถวินิจฉัยอาการก่อนมีประจำเดือนได้อย่างไร?
ดูแลตัวเองให้ดีกว่าเดิม การมีรูปลักษณ์ที่ดูไม่ดี เช่นอ้วน เป็นสิวเขรอะหรือผิวพรรณที่ไม่สดใส ทำให้ดูโทรม เมื่อส่องกระจกก็จะรู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสีย ไม่พอใจในตัวเอง เป็นเช่นนี้ได้เวลาแก้ไขกันแล้ว แค่เพียงคุณหันกลับมาดูแลรูปร่าง ผิวพรรณของตัวเอง โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายให้มากขึ้น เมื่อคุณมีร่างกายที่แข็งแรงแล้วคุณก็จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงบุคลิกและภาพลักษณ์ตัวเอง ก็จะสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกพึงพอใจในตัวเองได้อีกด้วย 4.
สาวทุกวัย ใจว้าวุ่น VS PMS ศิษย์ ป. ประจำเดือน ศึกนี้ชนะได้ด้วยอาหาร!
เล่นกับสัตว์เลี้ยง สัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของเรา ไม่ทำร้ายเรา ช่วยให้คุณคลายอารมณ์หงุดหงิด ลดความเครียด และทำให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นแมว สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ เช่น นก กระรอก หนู การได้เห็นสัตว์เหล่านี้เคลื่อนไหวและการได้จับ ได้ลูบ ได้กอด หรือให้พวกมันมาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ จะทำให้เรามีความสุข รู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ปลอดโปร่งมากขึ้น 8. ออกกำลังกาย การได้ขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการได้เดินไปเรื่อยๆ ช้าๆ หรือวิ่งเหยาะๆ หรือเต้น ฮูลาฮูป หรือเล่นกีฬาที่โปรดปราน จะช่วยให้ความเครียดที่มีอยู่หมดลงไป เพราะคนที่เครียด กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายมักจะตึง เมื่อเราได้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระจะทำให้กล้ามเนื้อนั้นคลายความตึงลง ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายขึ้นด้วย ดังนั้น จึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากสุขภาพจะแข็งแรงแล้ว ยังทำให้คลายควาเครียดความหงุดหงิดไปได้เยอะเลย 9. กอดคนที่ร้ก การได้กอดหรือได้รับการกอดจากคนที่เรารักและรักเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนรัก จะช่วยให้เรามีความรู้สึกที่ดีขึ้นทันทีและช่วยลดความเครียดลงได้ในเวลาเดียวกัน เพราะการกอดเป็นสัมผัสที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกรัก อบอุ่นใจ ห่วงใยและเข้าใจระหว่างกันและกันได้ เมื่อเราได้รับการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ มาจะทำให้เรามั่นคงในจิตใจมากขึ้น และพร้อมที่จะก้าวข้ามปัญหาหรืออุปสรรคไปได้อย่างมีสติและใจเย็น 10.
วิธีแก้นอนกรน - หาเทคโนโลยีช่วยแก้นอนกรน สำหรับใครที่ใจร้อนอยากจะหาตัวช่วยในการแก้ไขปัญหานอนกรน ในปัจจุบันนี้ก็มีนวัตกรรมต่างๆ ที่ช่วยทำให้อาการนอนกรนทุเลาลงได้จากการปรับสภาพอากาศ ปรับวิธีการหายใจ และบางเครื่องมือยังช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนที่เป็นผลเสียกับร่างกายได้ด้วย เช่น การเปิดเครื่องช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศเพื่อแก้ปัญหาอากาศแห้งซึ่งเป็นสาเหตุของการตีบแคบลงของทางเดินหายใจ การใช้แผ่นแปะจมูกหรือตัวถ่างจมูกในขณะนอนหลับ จะช่วยเพิ่มพื้นที่ทางเดินหายใจในจมูก ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น เป็นต้น 5.