หากมีชาวต่างชาติมาถือหุ้นด้วย จะให้ชาวต่างชาติถือหุ้นเท่าไหร่ดี?? มากกว่า 50% >> บริษัทต่างด้าว มีข้อจำกัดในธุรกิจบางประเภทที่ห้ามทำ หรือจะต้องขออนุญาตก่อนถึงจะทำได้ ห้ามถือครองที่ดิน น้อยกว่า 50% >> นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย แล้วคนต่างชาติเป็นเจ้าของที่แท้จริง แต่อยากจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลที่ตั้งตามกฎหมายไทยล่ะ??
การขายทอดตลาด ยกเว้น การประมูลซื้อขายระหว่างประเทศที่ไม่ใช่ประมูลซื้อขายของเก่า วัตถุโบราณ หรือศิลปวัตถุที่เป็นงานศิลปกรรม หัตถกรรม หรือโบราณวัตถุของไทย หรือสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย หรือ การขายทอดตลาดประเภทอื่นที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง 13. การค้าภายในเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือผลิตผลทางการเกษตรพื้นเมืองที่ยังไม่มีกฎหมายห้ามไว้ 14. การค้าปลีกทุกประเภท สินค้า ที่มีทุนขั้นต่ำน้อยกว่า 100 ล้านบาท หรือทุนขั้นต่ำของแต่ละร้านค้าน้อยกว่า 20 ล้านบาท 15. การค้าส่งสินค้าทุกประเภทที่มีทุนขั้นต่ำของแต่ละร้านไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท 16. กิจการโฆษณา 17. กิจการโรงแรม ยกเว้นบริการจัดการโรงแรม 18. ธุรกิจนำเที่ยว 19. ขายอาหารหรือเครื่องดื่ม 20. ทำธุรกิจเพาะขยายหรือปรับปรุงพันธุ์พืช 21.
ผู้ถือหุ้นคนไทยจะต้องโชว์เงินให้สอดคล้องกับเงินที่นำมาลงทุนในหุ้น (ตามสัดส่วนที่ผู้ถือหุ้นคนไทยถือหุ้นอยู่) ไม่ว่า ทุนจดทะเบียนเท่าใดก็ตาม โดยทั้งนี้ผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติไม่ต้องโชว์เงิน ถึงแม้ชาวต่างชาติจะถือแค่เพียง 1 หุ้น ผู้ถือหุ้นคนไทยทุกคนก็ต้องโชว์เงินตามสัดส่วนที่ตนเองถือหุ้นอยู่ 5. วิธีการแสดงเงินของผู้ถือหุ้นคนไทยต่อเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในกรณีมีต่างชาติถือหุ้น ตอนจดทะเบียนจะต้องทำอย่างไร? ใช้หนังสือรับรองบัญชีเงินฝากที่ธนาคารออกให้เพื่อแสดงยอดเงินฝากธนาคารของผู้ถือหุ้น โดยหนังสือรับรองเงินฝากของผู้ถือหุ้นสามารถแสดงเงินฝากมากกว่าเงินลงทุนในกิจการตามสัดส่วนที่ตนเองถือหุ้นอยู่ได้ แต่ทั้งนี้ห้ามน้อยกว่า 6. บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย หากมีคนต่างชาติเป็น "กรรมการบริษัท" หรือเป็น "หุ้นส่วนผู้จัดการ" จะทำให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนั้นมีสถานะเป็นต่างด้าวหรือไม่? กรณีบริษัทจำกัด – การที่มีคนต่างชาติเป็นกรรมการบริษัทไม่มีผลทำให้บริษัทนั้นมีสถานะเป็นต่างด้าว หากจำนวนหุ้นข้างมากของบริษัทนั้นถือโดยคนไทยคือ 51% ขึ้นไป 2. กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนสามัญ – หากมีชาวต่างชาติเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจะทำให้ห้างหุ้นส่วนนั้นมีสถานะเป็นต่างด้าว ถึงแม้คนไทยจะลงทุนข้างมากในห้างหุ้นส่วนก็ตาม 7.
ขอใบรับรองความโสดของ สามี/ภรรยาชาวต่างชาติ ที่สถานทูตประเทศนั้นๆ เวลาชาวต่างชาติมาจดทะเบียนสมรสในไทย เค้าต้องไปที่สถานทูตของประเทศตัวเองเพื่อยื่นคำร้องรับรองความโสดของตัวเอง (ป้องกันการจดทะเบียนซ้อน) ขั้นตอนในการขอใบโสดจะขึ้นอยู่กับกฎระเบียบของแต่ละสถานทูตฯครับ ขั้นตอนที่2. แปลเอกสารรับรองความโสดเป็นภาษาไทย สำหรับขั้นตอนนี้มาแปลที่เราครับคิดราคาตามภาษาครับเริ่มต้นที่ 200-400 บาทครับ ที่ต้องเอาเอกสารรับรองความโสดไปแปลนี่ก็เพราะว่าเวลาจดทะเบียนจะจดเป็นภาษาไทย เอกสารก็ต้องเป็นภาษาไทย (เราต้องเอาข้อมูลไปกรอกใบคำร้องที่สำนักงานเขตหรืออำเภอตอนจดทะเบียน) ขั้นตอนที่3. เอาเอกสารที่แปลไปรับรองที่ (กระทรวงการต่างประเทศ) หรือ กงสุล แจ้งวัฒนะ นำใบรับรองความโสดตัวจริง, ใบรับรองความโสดที่เอาไปแปล, สำเนาพาสปอร์ตของสามี/ภรรยา ขั้นตอนที่4. จดทะเบียนสมรสที่อำเภอ เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เราสามารถไปจดทะเบียนสมรสได้ทุกสำนักงานเขตและทุกอำเภอ แต่ถ้าเป็นกรุงเทพ จะดีกว่าครับเพราะว่า เจ้าหน้าที่รู้เรื่องการจดทะเบียนกับชาวต่างชาติ เป็นอย่างดี เวลาส่งวีซ่าจะได้ไม่มีปัญหา เวลาไปจดทะเบียนต้องมี ล่าม เเละ พาพยานไปด้วย 1+ 1 คน ขั้นตอนที่5.
มีค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ, ยอดขาดทุนที่สามารถนำไปหักลดหย่อนเงินได้พึงประเมินได้มากกว่าธุรกิจส่วนบุคคล เช่น เงินชดเชยการออกจากงาน, ค่าประกันชีวิต(มีเพดานขั้นสูงสุด), ค่าประกันชีวิตแบบกำหนดช่วงระยะเวลา 3. สามารถเข้าระบบประกันสุขภาพและเงินบำนาญของรัฐบาลได้ 4. มีการลดอัตราภาษี 5. นิติบุคคลสามารถใช้ยอดขาดทุนเพื่อประโยชน์ทางภาษีได้นานกว่า 6. สามารถขอวีซ่าประกอบธุรกิจ/บริหารธุรกิจสำหรับคนต่างชาติได้ง่ายกว่า 7. ค่าตอบแทนของพนักงานโดยหลักแล้วจะถือเป็นค่าใช้จ่าย 8. สามารถเปลี่ยนผู้บริหารได้ หากมีกรณีใดๆ เกิดขึ้นสามารถแบ่งและส่งมอบหุ้นต่อได้
มีมาตรการที่อนุญาตให้นำภาษีนิติบุคคลที่ชำระในประเทศญี่ปุ่นไปหักออกจากภาษีนิติบุคคลที่ต้องชำระในประเทศตนได้ *2. เกณฑ์ในการพิจารณาขนาดของนิติบุคคลขนาดกลางและขนาดเล็กและภาษีท้องถิ่นนิติบุคคลตามขนาด/ภาษีขั้นต่ำดูจากจำนวนทุนจดทะเบียนของบริษัทต่างชาตินั้นๆ *3. ในกรณีที่สาขาในญี่ปุ่นขายหรือให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ อีกฝ่ายต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่าย *4. ภาษีระหว่างประเทศของนิติบุคคลต่างชาติ(สาขาในญี่ปุ่น) ค่อนข้างซับซ้อน รายละเอียดโปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เงินได้จากทุกแห่งจะต้องชำระภาษี รายการทรัพย์สินของบริษัทญี่ปุ่น (บริษัทลูก) จะถูกคำนวณรวมกับบริษัทในต่างประเทศ(บริษัทแม่) *มีกรณียกเว้น การจัดการบัญชี กำไรและขาดทุน โดยหลักสามารถทำได้ (หากมีการขาดทุนสามารถหักกลบลบหนี้กับกำไรของบริษัทแม่ได้) สามารถทำได้ (คำนวณเงินได้รวมกับบริษัทแม่ได้) ทำไม่ได้(เนื่องจากจัดการบัญชีของนิติบุคคลญี่ปุ่นแล้ว จึงไม่สามารถหักกลบลบหนี้กับบริษัทแม่ได้) ไม่บังคับ แต่หากมีพนักงานตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปต้องเข้าระบบ เป็นหน้าที่ ประกันอุบัติภัย แก่ลูกจ้าง ประกันการจ้างงาน 5. ข้อดีของการจัดตั้งบริษัท 1. มีความน่าเชื่อถือสูง ได้รับความเชื่อใจจากสถาบันการเงินหรือคู่ค้า รวมถึงการรับสมัครพนักงาน 2.
ทำธรุกิจสีข้าว และผลิตแป้งจากข้าว และพืชไร่ 2. ธุรกิจทำประมง (การเลี้ยงสัตว์น้ำ) 3. ธุรกิจทำป่าไม้จากป่าปลูก 4. ผลิตไม้อัด แผ่นไม้วีเนียร์ หรือฮาร์ดบอร์ด 5. ธุรกิจผลิตปูนขาว 6. บริการทางบัญชี 7. บริการทางกฎหมาย 8. บริการทางสถาปัตยกรรม 9. บริการทางวิศวกรรม 10. ธุรกิจก่อสร้าง ยกเว้น การก่อสร้างซึ่งเป็นการให้บริการพื้นฐานแก่ประชาชนด้านการสาธารณูปโภคหรือคมนาคมที่ต้องใช้ เครื่องมือ เครื่องจักร เทคโนโลยีหรือความชำนาญในการก่อสร้างเป็นพิเศษ โดยมีทุนขั้นต่ำของต่างชาติตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป หรือ ธุรกิจก่อสร้างประเภทอื่นที่กำหนดไว้ในกฎของกระทรวง 11. กิจการนายหน้า ตัวแทน ยกเว้นตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ หรือการบริการการซื้อขายหลักทรัพย์ล่วงหน้า ซึ่งสินค้า ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร หรือตราสารที่เกี่ยวข้องกับการเงินหรือหลักทรัพย์ การเป็นนายหน้า ตัวแทนซื้อขาย จัดหาสินค้า หรือบริการที่จำเป็นในการผลิต หรือการบริการของวิสาหกิจในเครือเดียวกัน การเป็นนายหน้า ตัวแทนซื้อขาย จัดซื้อ จัดจำหน่าย จัดหาตลาดในประเทศ หรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศ โดยต่างชาติต้องมีทุนขั้นต่ำตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป หรือ การเป็นตัวแทนนายหน้าประเภทอื่นตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง 12.
2 2) สำเนาหนังสือเดินทางหรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว 3) สำเนาทะเบียนบ้าน ใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือหลักฐานการได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง 4) คำรับรองของผู้ขอรับใบอนุญาตแสดงว่าตนมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ. ศ. 2542 5) หนังสือแจ้งรายละเอียดของประเภทธุรกิจที่ขอรับใบอนุญาต 6) แผนที่แสดงที่ตั้งโดยสังเขปของสถานที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย 7) หนังสือมอบอำนาจในกรณีที่มีการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้กระทำแทน 8) หลักฐานหรือเอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย 1) แบบ ต. 2 2) สำเนาหนังสือรับรองหรือหลักฐานการเป็นนิติบุคคลซึ่งแสดงรายการเกี่ยวกับชื่อ ทุน วัตถุประสงค์ ที่ตั้งสำนักงาน รายชื่อกรรมการและผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล 3) คำรับรองของผู้ขอรับใบอนุญาตแสดงว่าผู้ขอรับใบอนุญาต กรรมการ หรือผู้จัดการ มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ. 2542 4) หนังสือแจ้งรายละเอียดของประเภทธุรกิจที่ขอรับใบอนุญาต 5) หนังสือแจ้งสัดส่วนการถือหุ้นระหว่างคนไทยกับคนต่างด้าว จำนวนหุ้น ประเภทหรือชนิดของหุ้นที่คนต่างด้าวถือ 6) แผนที่แสดงที่ตั้งโดยสังเขปของสถานที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย 7) หนังสือมอบอำนาจในกรณีที่มีการมอบอำนาจให้บุคคลอื่นเป็นผู้กระทำการแทน 8) หลักฐานหรือเอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ห้ามคนต่างด้าวประกอบธุรกิจ บางประเภท และบางประเภทจะประกอบธุรกิจได้ต่อเมื่อได้รับใบอนุญาตหรือได้รับหนังสือรับรองแล้วแต่กรณี 1.
ผลิต จัดจำหน่าย และซ่อมบำรุง อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ส่วนประกอบของอาวุธปืน ส่วนประกอบอุปกรณ์สงคราม วัตถุที่ทำระเบิด อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ และเรือ อากาศยาน หรือยานพาหนะทางทหารทุกประเภท 2. ธุรกิจขนส่งทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศในประเทศ รวมถึงกิจการการบินในประเทศ 3. ธุรกิจค้าขายของเก่า หรือศิลปวัตถุที่เป็นงานศิลปกรรม หัตถกรรมของไทย 4. ธุรกิจผลิตเครื่องไม้แกะสลัก 5. ธุรกิจเลี้ยงไหม ผลิตเส้นไหมไทย ทอผ้าไหมไทย หรือพิมพ์ลวดลายผ้าไหมไทย 6. ผลิตเครื่องดนตรีไทย 7. ผลิตเครื่องทอง หรือเครื่องเงิน 8. ผลิตถ้วยชาม หรือเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นศิลปวัฒนธรรมไทย 9. ธุรกิจผลิตน้ำตาลจากอ้อย 10. ทำนาเกลือ รวมถึงการทำเกลือสินเธาว์ด้วย 11. ทำเกลือหิน 12. ทำเหมือง รวมถึงระเบิดหรือย่อยหิน 13. แปรรูปไม้เพื่อทำเครื่องเรือนและเครื่องใช้สอย บัญชี 3 ธุรกิจที่คนไทยไม่พร้อมที่จะแข่งขันกับชาวต่างชาติ ชาวต่างชาติ ที่จะประกอบธุรกิจตามบัญชี 3 จะต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ซึ่งใช้เวลาในการพิจารณาภายในกำหนด 60 วันนับแต่วันที่ยื่นเอกสารขออนุญาตประกอบธุรกิจ และอธิบดีจะออกใบอนุญาตภายใน 15 วันนับแต่วันที่อนุญาต ชาวต่างชาติมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ประกอบธุรกิจบัญชี 3 ต่อรัฐมนตรีได้ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง และรัฐมนตรีจะวินิจฉัยเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ยื่นอุทธรณ์ 1.