22 มีนาคม 2022 กรีนพีซและเครือข่าย รวมตัวฟ้องผู้มีส่วนกับการแก้ปัญหามลพิษฝุ่น PM2. 5 ชี้ดำเนินงานช้า ทำประชาชนประสบปัญหาสุขภาพ วันนี้ (22 มีนาคม) ผู้แทนมูลนิธิเพื่อสันติภาพเขียว (Greenpeace Thailand), มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW), มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH), สภาลมหายใจเชียงใหม่, สภาลมหายใจภาคเหนือ, นพ. สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ และ นันทิชา โอเจริญชัย นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมและผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม Climate Strike Thailand ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาสังคมและประชาชน...
กรมการขนส่งทางบก ขานรับนโยบายรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม กำหนดมาตรการเร่งด่วน 7 ด้าน เร่งแก้ไขปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2. 5 ย้ำ!!! ดำเนินการเข้มงวดโดยเฉพาะรถบรรทุกและรถโดยสารที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน คุณจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการดำเนินการตามมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2. 5 ตามข้อสั่งการเร่งด่วนของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก จึงยกระดับความเข้มข้นในการดำเนินการให้ทุกมาตรการต้องดำเนินการเร่งด่วน เข้มข้น จริงจัง โดยเน้นการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการตรวจค่าควันดำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2. 5 มีดังนี้ 1. เข้มงวดกวดขันการตรวจวัดควันดำรถทุกชนิดที่มาดำเนินการด้านทะเบียนและภาษีรถ ณ กรมการขนส่งทางบกและสำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้มีรถที่ค่าควันดำเกินกำหนดออกไปใช้งานบนท้องถนน 2. จัดส่งผู้ตรวจการออกกวดขันจับกุมรถบรรทุกและรถโดยสารที่ใช้งานบนท้องถนนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร และถนนสายหลักและสายรองที่เข้าสู่กรุงเทพมหานคร รวมถึงที่จุดตรวจรถโดยสารสาธารณะ Checking Point หากตรวจพบผู้ฝ่าฝืนจะลงโทษเปรียบเทียบปรับสถานหนักและสั่งห้ามใช้รถด้วยการพ่นห้ามใช้ โดยเจ้าของรถต้องนำรถไปแก้ไขและนำมาตรวจสภาพอีกครั้งจนผ่านการตรวจวัดจึงจะนำไปใช้งานได้ 3.
หลังจากฝุ่น PM2. 5 กลับมาก่อปัญหาในปีนี้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีการกระจายตัวอยู่หลายพื้นที่ทั่วประเทศโดยเฉพาะภาคใต้ได้รับผลกระทบหนักสุด นอกจากนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลก็พบปริมาณฝุ่นละออง PM 2. 5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 41-79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ ปานกลางถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในหลายพื้นที่ เกินเกณฑ์มาตรฐาน (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก. ลบ. ม. ) ประชาชนจึงเกิดความหวั่นวิตกมากขึ้น ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมว่า ครม. เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ที่จะมีแนวทางแก้ปัญหาใน 3 มาตรการ คือ มาตรการที่ 1 การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ (การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและในช่วงวิกฤต มาตรการที่ 2 การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง(แหล่งกําเนิด) (การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น (62 - 64) และระยะยาว (65-67) และมาตรการที่ 3 การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ (การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น (62 - 64) และระยะยาว (65-67) อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวได้มีการดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งวิกฤตฝุ่น PM 2.
5 ขณะนี้อยู่ในระยะก่อนเกิดวิกฤต เพราะตัวเลขยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงมหาดไทย (มท. )กรุงเทพฯ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว. ) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงสาธารณสุข (สธ. ) กระทรวงอุตสาหกรรม สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (สตช. ) และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส. ) ต้องร่วมกันรับผิดชอบและต้องปฏิบัติตามเมื่อเข้าสู่มาตรการขั้นต่างๆ ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส. ) นำเสนอ โดยใช้ตัวชี้วัดจำนวนวันที่ปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเพิ่มขึ้น และจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ลดลง แบ่งเป็น 3 มาตรการ มีรายละเอียดดังนี้ มาตรการที่1 การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ มาตรการนี้เน้นการควบคุมมลพิษในช่วงวิกฤตสถานการณ์ฝุ่นละออง เป็นการดำเนินงานในระยะเร่งด่วน เพื่อควบคุมพื้นที่ที่มีปัญหาฝุ่นละออง ได้แก่ 9 จังหวัดภาคเหนือ กทม. และปริมณฑล พื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง พื้นที่หน้าพระลาน จ.
"ดีป้า" จับมือ "เอไอเอส" ติดตั้งเซนเซอร์วัดฝุ่น PM 2. 5 นำร่อง 3 ในระยอง ชลบุรี และ ฉะเชิงเทรา จำนวน200 จุด เพื่อรับมือกับปัญหาฝุ่นควันและมลพิษ นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ( ดีป้า) เปิดเผยว่า จากที่ได้รับมอบนโยบายจากรมว. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้ต่อยอดหาพันธมิตรเพื่อร่วมพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลนั้น ล่าสุด ดีป้า ได้ร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ติดตั้งอุปกรณ์เซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้น และ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2. 5 รวม 200 จุด ชูระบบ NB-IoT Network ส่งข้อมูลเข้า Data Center ประมวลผล พร้อมรายงานข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน "depa PM 2.
รับมือ "ฝุ่น PM 2. 5" บิ๊กป้อม สั่งการ ทส. ยกระดับเข้มข้น แนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2. 5 ตรวจจับควันดำ ห้ามเผาเด็ดขาด ในพื้นที่จังหวัดรอบกรุงเทพ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดี กรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ได้ปรับแผน รับมือ ฝุ่น PM 2. 5 หลังจากเกิดค่ามลพิษฝุ่น PM 2. 5 เกินค่ามาตรฐาน 14 พื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยได้มีการกำหนดขอบเขต การยกระดับการปฏิบัติ ให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงการประสาน และทำงานร่วมกัน กับทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ พล. อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเพิ่มเติม ให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส. ) เร่งประสานงาน กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหา และบรรเทาผลกระทบ ที่เกิดขึ้นจาก ฝุ่น PM 2. 5 ขณะที่รัฐบาล ได้ห่วงใย และให้ความสำคัญ เรื่องสุขภาพอนามัย ของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้กำหนดเรื่องนี้ เป็นวาระแห่งชาติ โดยได้มึการเตรียมการ และกำหนดมาตรการแนวทาง แผนปฏิบัติการวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการแก้ปัญหาฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM 2.
คพ. -กทม. รายงานค่า PM 2. 5 ตรวจวัดได้ 15-43 ไมโครกรัม ลดลงในทุกพื้นที่จนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยิ่งในช่วงบ่ายมีฝน ยันเกาะติดต่อเนื่อง วันนี้ (2 ต. ค. ) รายงานคุณภาพอากาศ (ค่า PM 2. 5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษ (คพ. ) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ณ เวลา 15. 00 น. 1. ) ปริมาณฝุ่นละออง PM 2. 5 ตรวจวัดได้ระหว่าง 15-43 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ปริมาณฝุ่นละอองได้ลดลงในทุกพื้นที่จนกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยมีคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ณ เวลา 15. ที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก เพิ่มขึ้นจากเมื่อช่วงกลางวันจากจำนวน 20 พื้นที่ เป็นจำนวน 22 พื้นที่ คุณภาพอากาศดีจำนวน 22 พื้นที่ ลดลงเหลือ 13 พื้นที่ และคุณภาพอากาศปานกลาง จำนวน 6 พื้นที่ เหลือจำนวน 5 พื้นที่ ทำให้สถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว 2. ) จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ณ เวลา 13. รายงานว่า ในช่วงบ่ายพื้นที่ กทม. และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2. 5 กลับสู่ภาวะปกติ 3. ) คพ. ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ กทม.