Happiness is the key to success. If you love what you are doing, you will be successful. " - Albert Schweitzer- หากเรารักในสิ่งที่ทำ สักวันต้องพบกับความสำเร็จแน่นอน ยืมเขามา พี่บอยเยี่ยมไปเลยคะ เป็นกำลังใจให้ทุก ๆ เรื่อง พี่บอยเยี่ยมไปเลยคะ เป็นกำลังใจให้ทุกเรื่องคะ พี่บอยเยี่ยมมากเลยคะ ครั้งหนึ่งเคยคุยกับพี่บอย พี่ท่านก็จะเล่าประสบการณ์ที่ทำงานเดิมให้รู้ แต่มีข้อหนึ่ง ที่พี่บอกว่า ตอนอยู่ที่ทำงานเดิม พี่จะยึดหลักการในการทำงานว่า "เราต้องรู้จักผลประโยชน์ของหน่วยงานเราเป็นหลัก" ฟังแล้วก็เป็นเปี่ยมกับความคิดของคนอีกแง่หนึ่ง เลยหละค่ะ หวัดดีพี่บอย เป็นไงสบายดีสิ ตอนนี้อยู่ที่ไหน พยายามติดต่อตั้งนานแล้วเนี่ย เฮ้อติดต่อได้แล้ว มีเพื่อนใหม่เยอะเลยสิ เนี่ยติดต่อมาได้น่ะ 083-9775755 kaew
รายงานการฝึกงานนอกจากจะเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกงานที่สมบูรณ์แล้ว ยังเป็นโอกาสที่คุณจะได้เล่าประสบการณ์ของคุณด้วย สิ่งสำคัญของการเขียนรายงานที่ดีคือการเขียนอย่างเป็นระบบ ปกในจะต้องดูเป็นทางการ ตามด้วยหัวข้อต่างๆ ที่อธิบายการฝึกงานของคุณและตั้งหัวข้ออย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ถ้าคุณเล่าประสบการณ์ของคุณอย่างชัดเจนตามความเป็นจริง รายงานของคุณก็จะกลายเป็นรายงานที่น่าอ่านมากเลยทีเดียว 1 ใส่เลขหน้าในรายงาน. อย่าลืมใส่เลขหน้าตรงมุมบนขวามือของแต่ละหน้ายกเว้นหน้าปกใน คุณสามารถใส่เลขหน้าอัตโนมัติได้ด้วยการใช้ตัวเลือกเมนูที่อยู่ในตำแหน่งแถบงานของโปรแกรมเวิร์ดโพรเซสเซอร์ แล้วมันจะสร้างเลขหน้าอัตโนมัติให้คุณเลย [1] การใส่เลขหน้าจะทำให้ผู้อ่านสามารถดูเลขหน้าจากสารบัญได้เลย เลขหน้าจะช่วยให้คุณจัดลำดับรายงานได้อย่างเป็นระเบียบและแทนที่หน้าที่หายไปได้ 2 เขียนชื่อรายงานในหน้าปก. หน้าปกเป็นหน้าแรกที่ผู้อ่านเห็น พิมพ์ชื่อรายงานตรงด้านบนของกระดาษด้วยตัวหนา ชื่อรายงานที่ดีควรจะอธิบายว่าคุณทำอะไรในช่วงฝึกงาน แต่อย่าใส่มุกตลกหรือคำวิจารณ์เกี่ยวกับการฝึกงานลงไปในชื่อรายงาน [2] เช่น คุณอาจจะเขียนว่า "รายงานการฝึกงานด้านวาณิชธนกิจที่ธนาคารกรุงไทย" ชื่อรายงานทั่วไปอย่าง "รายงานการฝึกงาน" ก็เป็นชื่อที่ยอมรับได้ถ้าคุณคิดชื่ออื่นไม่ออก 3 ใส่ชื่อของคุณและข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกงานลงบนหน้าปก.
ความยากใน การเขียนเรซูเม่ ของคนที่มีประสบการณ์ทำงานมาหลายปี คือจะเขียนเรซูเม่อย่างไร ให้ประสบการณ์ทั้งหมดนั้นอยู่ภายใน 1-2 หน้ากระดาษโดยมีข้อมูลที่กระชับ ไม่ยืดยาว แถมยังครบถ้วน และเข้าตาผู้ประกอบการอีกด้วย jobsDB มีเคล็ดลับการเขียนเรซูเม่ให้อยู่ภายใน 1-2 หน้ากระดาษมาฝาก แต่ก่อนอื่นจะขอพูดถึงเรื่องความยาวของเรซูเม่กันก่อน เรซูเม่ที่เข้าตาผู้ประกอบการควรมีกี่หน้ากันแน่? คำถามยอดฮิตในการเขียนเรซูเม่.. มีแค่หน้าเดียวจะใส่ข้อมูลอะไรบ้าง? แล้วถ้าเรซูเม่มี 2 หน้าล่ะ? มีกฎเกณฑ์อะไรมั้ยว่าเรซูเม่จะต้องยาวเท่าไหร่ถึงจะถูกใจผู้ประกอบการ? ผู้ประกอบการส่วนมาก ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เรซูเม่ที่เขาถูกใจคือ เรซูเม่ที่กระชับได้ใจความ ผู้ประกอบการใช้เวลาสแกนดูเรซูเม่ของคุณแค่ 7 วินาทีเท่านั้น ถ้าเรซูเม่ของคุณไม่โดดเด่น ไม่สะดุดตา ไม่น่าสนใจจะถูกเก็บไป ผู้ประกอบการอาจจะยังไม่ทันเปิดไปดูหน้า 2 ที่อาจจะมีข้อมูลสำคัญของคุณอยู่ก็ได้ ถ้าคุณเป็นเด็กจบใหม่ หรือเพิ่งทำงานได้ไม่นาน ควรเขียนเรซูเม่ให้อยู่ภายใน 1 หน้า แต่ถ้าคุณเป็นผู้สมัครงานที่มีประสบการณ์ทำงาน และมีผลงานที่ดี เข้ากับงานที่คุณจะสมัคร เรซูเม่ 2 แผ่นก็อาจจะไม่ได้ยาวเกินไป เรซูเม่ที่กระชับ ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต ตั้งแต่มาทำงานวันแรกจนถึงวันนี้ก็รู้สึกประทับใจอะไรหลายๆอย่างและได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้รู้ด้วยซ้ำเพราะงานที่ผ่านมาค่อนข้างปิดกั้นพนง. ในการเรียนรู้เพิ่มเติมแต่ที่ๆอยู่วันนี้คือคณะสหเวชฯมน. เป็นที่ๆให้ความรู้เพิ่มเติมมากๆขอขอบคุณทุกๆคนที่ช่วยให้ความรู้เพราะเวลาถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจหรือไม่เคยทำทุกคนยินดีตอบโดยไม่มีใครห่วงวิชารู้สึกประทับใจมากๆแต่ไม่ใช่ว่าที่ทำงานเก่าไม่ดีนะดีคนละอย่างเพราะที่เก่าจะใช้โปรแกรมสำเร็จรูปวันๆก็จะบันทึกแบบเดิมๆส่วนคณะสหเวชฯทันสมัยกว่ามากเช่นมีการบันทึกblog, มีการให้ใช้E-mailและ INTERNET แล้วล่าสุดก็ E-offioeเพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เคยคิดว่าจะได้รู้เลยแต่พอมาอยู่ที่มน. ก็ได้เรียนรู้จากเพื่อนๆส่วนงานเก่าก็นำมาใช้บ้างเช่นช่วยงานพัสดุบ้างและก็บัญชีบ้างเพราะเคยเป็นหัวหน้าบัญชีต้นทุนมา 10 กว่าปีก็เลยพอเข้าใจ หมายเลขบันทึก: 116520 เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2007 10:08 น. () แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:12 น. () สัญญาอนุญาต: ความเห็น (7) ถือได้ว่าพี่บอยเป็นคนเก่งนะค่ะ แต่ไม่กล้าแสดงออกแต่แท้ที่จริงพี่บอยทำได้ ไม่มีใครแก่เกินเรียน ค่อยศึกษาไป สักวันเก่งเกินหน้าน้องๆ แน่นอน ดีครับเป็นกำลังใจให้ "Success is not always the key to happiness.
kaewketsri โดยน้อง ๆ ฝึกงาน เวิลด์ ไอที เอ็นจิเนียริ่ง จก.
ค่อยๆ อ่านรายงานตั้งแต่ต้นจนจบอย่างน้อย 1 ครั้ง โน้ตประโยคที่อ่านแล้วยังไม่ค่อยลื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของประสบการณ์ที่คุณอธิบายในรายงานและน้ำเสียงโดยรวมของรายงาน รายงานทั้งฉบับจะต้องปะติดปะต่อกัน อยู่บนพื้นฐานของความจริง และชัดเจน การอ่านออกเสียงและการขอให้คนอื่นอ่านงานให้สามารถช่วยคุณได้ แก้ไขรายงานก่อนส่ง.
1. ข้อมูลโปรเจกต์ คือภาพรวมโปรเจกต์หรืองานที่คุณเคยทำ มีส่วนช่วยให้คนที่อ่านสามารถรับรู้ว่าเคยผ่านงานแบบไหนมาบ้าง ยิ่งถ้าเป็นโปรเจกต์ที่มีลักษณะคล้ายกับสิ่งที่ทางผู้ว่าจ้างกำลังต้องการยิ่งทำให้คนอ่านสนใจในตัวคุณมากขึ้น ซึ่งรายละเอียดสำหรับข้อมูลโปรเจกต์ที่ดีควรประกอบไปด้วย ชื่อโปรเจกต์ ตำแหน่งในโปรเจกต์ ผู้ว่าจ้าง / บริษัท ประเภทอุตสาหกรรม ตัวอย่างผลงาน / URL ระยะเวลาที่ทำโปรเจกต์ 2. รายละเอียดงาน คือเนื้อหาของงานที่คุณรับผิดชอบในโปรเจกต์นั้น ๆ ว่าระหว่างปฏิบัติหน้าที่คุณได้มีส่วนร่วมอะไร และผลลัพธ์ของการทำงานนี้เป็นยังไง เรามักจะเห็นการเขียนรายละเอียดงานเป็นประโยคยาว ๆ โดยเนื้อหาควรประกอบไปด้วย 2 หัวข้อ ได้แก่ หน้าที่ / ความรับผิดชอบ ความสำเร็จ ยกตัวอย่างการเขียนรายละเอียดงาน เช่น Refactored and upgraded the continuous integration code of our main repository and created a gem to make available to other projects. 3.
อย่าพูดกว้างๆ แต่ให้เล่าประสบการณ์ลงในรายงานด้วยการยกตัวอย่างเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณเขียน รายละเอียดที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้อ่านนึกภาพประสบการณ์การทำงานของคุณออก [17] เช่น เขียนว่า "บริษัทแอกซ์เมทิ้งชุดระเบิดไดนาไมต์ที่ไม่มีสลักไว้ด้านนอก ดิฉันจึงรู้สึกไม่ปลอดภัยระหว่างการทำงานที่นั่น" คุณอาจจะเขียนว่า "หัวหน้าให้ดิฉันไปถ่ายรูปโลมาเกยตื้นที่หน้าหาดบางแสน" ใส่ข้อสังเกตเกี่ยวกับชีวิตจริง.
ทุกบริษัทหรือองค์กรประกอบด้วยแผนกต่างๆ เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับแผนกที่คุณเข้าไปฝึกงาน โดยพยายามเขียนให้เจาะจงมากที่สุด ใช้ส่วนนี้ของบทนำในการเกริ่นเข้าหัวข้อประสบการณ์ส่วนตัว [9] เช่น เขียนว่า "ในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน พ. ศ. 2561 ดิฉันได้ฝึกงานในแผนกวิศวกรรมไฟฟ้าที่บริษัท แรมแจ๊คร่วมกับพนักงานอีก 200 คน" จำไว้ว่ารายงานนี้เป็นเรื่องราวของคุณ เพราะฉะนั้นให้ใช้สไตล์การเขียนส่วนตัวในการดึงดูดผู้อ่าน อธิบายความรับผิดชอบในช่วงฝึกงาน. อธิบายว่าช่วงฝึกงานคุณทำอะไรบ้าง พยายามใส่รายละเอียดให้ได้มากที่สุด แม้ว่างานที่ทำจะดูเป็นงานซ้ำซากในช่วงแรก เช่น ทำความสะอาดหรือเขียนบันทึกข้อความ แต่มันก็สิ่งที่ทำให้รายงานของคุณมีคุณค่า [10] คุณอาจจะเขียนว่า "หน้าที่รับผิดชอบของดิฉันขณะทำงานที่แรมแจ๊คคือการบัดกรีสายไฟฟ้า แต่นอกจากนี้ดิฉันก็ยังได้ทำหน้าที่ในส่วนของการบำรุงรักษาส่วนประกอบของหุ่นยนต์ด้วย" เขียนสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ระหว่างการฝึกงาน. เปลี่ยนจากการอธิบายหน้าที่รับผิดชอบในงานมาเป็นการอธิบายผลลัพธ์ ยกตัวอย่างสิ่งที่คุณได้จากการฝึกงานมาสัก 2-3 ตัวอย่าง อธิบายอย่างละเอียดว่าการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร [11] ลองคิดดูว่าตัวเองเปลี่ยนไปอย่างไรในด้านของการเติบโตที่มากไปกว่าการเป็นพนักงานคนหนึ่ง เช่น คุณอาจจะบอกว่า "ฉันได้เรียนรู้วิธีการสื่อสารกับคนในชุมชนที่ต่างจากฉันมากๆ" ประเมินประสบการณ์การฝึกงาน.