5% ของเกษตรกรทั้งหมดใน พ.
1543 วัฒนธรรมการผลิต ข้าวเหนียว ของชาวไทยเป็นตัวกำหนดโครงสร้างการบริหารในสังคมที่เน้นการปฏิบัติซึ่งผลิตส่วนเกินที่สามารถจำหน่ายได้ จวบจนถึงปัจจุบัน ระบบดังกล่าวได้รวมเป็นหนึ่งกับความมั่นคงของชาติและความอยู่ดีกินดีทางเศรษฐกิจ อิทธิพลของชาวจีนและชาวยุโรปก่อให้เกิดธุรกิจการเกษตรและเริ่มต้นความต้องการที่ทำให้เกิดการขยายตัวของเกษตรกรรมผ่านการเพิ่มจำนวนของประชากรจนกระทั่งดินแดนที่เข้าถึงได้ขยายออก พัฒนาการล่าสุดในทางเกษตรกรรม หมายความว่า นับแต่คริสต์ทศวรรษ 1960 การว่างงานได้ลดลงจากกว่า 60% เหลือต่ำกว่า 10% ในต้นคริสต์ทศวรรษ 2000 ในสมัยเดียวกัน ราคาอาหารลดลงครึ่งหนึ่ง ความหิวโหยลดลง (จาก 2. 55 ล้านครัวเรือนใน พ. 2531 เหลือ 418, 000 ครัวเรือนใน พ. 2550) และทุพภิกขภัยเด็กลดลงอย่างมาก (จาก 17% ใน พ. 2530 เหลือ 7% ใน พ. 2549) ซึ่งสามารถบรรลุได้ผ่านการผสมระหว่างบทบาทอันเข้มแข็งและเชิงบวกของรัฐในการประกันการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษาและการเข้าถึงเครดิต และ การริเริ่มภาคเอกชนที่ประสบความสำเร็จในภาคธุรกิจเกษตรเหล่านี้ได้สนับสนุนให้ไทยเปลี่ยนผ่านเป็นเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรมได้สำเร็จ เกษตรกรรมช่วงเปลี่ยนผ่าน เกษตรกรรมสามารถขยายตัวได้ระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1960 และ 1970 เมื่อสามารถเข้าถึงที่ดินใหม่และแรงงานว่างงาน ระหว่าง พ.
791 – 8. 383 หมื่นล้านบาทต่อปีระหว่าง พ. 2554 – 2588 (ซ้าย) แผนภาพแสดงการถือครองที่ดิน สีเขียวเข้มคือที่ดินซึ่งเกษตรกรถือครองกรรมสิทธิ์ เขียวอ่อนคือที่ดินซึ่งเกษตรกรถือครองกรรมสิทธิ์บางส่วน สีส้มคือที่ดินเช่า และสีม่วงคือที่ดินซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์ (ขวา) แผนภาพแสดงการเข้าถึงแหล่งน้ำ สีฟ้าเข้มคือพื้นที่ซึ่งเข้าถึงการชลประทาน สีฟ้าอ่อนที่ที่ดินซึ่งมีแหล่งน้ำเอกชน สีฟ้าเทาคือที่ดินซึ่งเข้าถึงแหล่งน้ำสาธารณะ สีส้มคือที่ดินซึ่งไม่มีแหล่งน้ำ ภาพจาก เอกสารนำเสนอหัวข้อ ภูมิทัศน์ภาคเกษตรไทย จะพลิกโฉมอย่างไรสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน? สำหรับปัจจัยเรื่องแรงงาน คณะวิจัยพบว่าแรงงานในภาคเกษตรมีแนวโน้มแก่ชราลง โดยสัดส่วนของผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปีในภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 36 ใน พ. 2551 เป็นร้อยละ 46 ในพ.