โหลดแอพเที่ยว ชมคลิปท่องเที่ยวสนุกๆ จากพวกเราได้ที่ ติดตามเราได้ที่ Follow @Chillpainai
หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ผู้ประกันตน แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจอย่างละเอียด วันนี้ TNN ขอนำเสนอข้อมูลผู้ประกันตน ของประกันสังคมมาตรา 39 ซึ่งเป็นผู้ประกันตนแบบสมัครใจของประกันสังคมว่าจะได้รับสิทธิอะไรบ้าง ผู้ประกันตนมาตรา 39 คือ ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ ซึ่งเคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และจ่ายเงินสมทบก่อนออกจากงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือนแล้วลาออก แต่ต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมอยู่ โดยผู้ประกันตนมาตรา 39 มีสิทธิประโยชน์คุ้มครอง 6 กรณี ที่มาภาพ: สำนักงานประกันสังคม 1. กรณีเจ็บป่วย 1. 1 กรณีเจ็บป่วยปกติ ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนที่จะเจ็บป่วยสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลตามสิทธิหรือเครือข่ายสถานพยาบาลนั้นได้ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน รวมทั้งค่าตรวจสุขภาพและฟื้นฟูสมรรถภาพ เว้นแต่มีความประสงค์สิ่งอำนวยความสะดวกเช่น ห้องพิเศษ แพทย์พิเศษ ซึ่งเหล่านี้ผู้ป่วยต้องจ่ายเพิ่มเอง ซึ่งสถานพยาบาลควรเป็นสถานพยาบาลใกล้บ้านหรือที่ทำงาน 1. 2.
5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบ ทุก 12 เดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ หรือ และ Line Official Account @ssothai ของสำนักงานประกันสังคม หรือ สายด่วนประกันสังคม โทร. 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่สะดวกได้ทุกแห่งในวันและเวลาราชการ
หลายคนที่เคยทำประกัน แต่อาจยังไม่เข้าใจอย่างละเอียดว่า ผู้ประกันตน ม.
จะเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาล (2) กรณีทุพพลภาพ สิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนได้รับ สำนักงานประกันสังคมเข้ามาดูแลค่ารักษาพยาบาลของผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ กรณีเข้ารับบริการทางการแพทย์ในสถานพยาบาลของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ถ้าเข้ารับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลเอกชน ในฐานะ ผู้ป่วยนอก ทาง สปส.
สำนักงานประกันสังคม ได้กำหนดค่าหลักเกณฑ์สำหรับผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 ต้องส่งเงินสมทบก่อนกี่เดือน จึงจะสามารถใช้สิทธิประกันสังคมในกรณีต่างๆ ได้ เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ต่างกันในแต่ละกรณี ดังนี้ 1. กรณีเจ็บป่วย ส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนเจ็บป่วย 2. กรณีคลอดบุตร ส่งเงินสมทบครบ 5 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนเดือนที่คลอดมีสิทธิ์ได้รับค่าคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง 3. กรณีทุพพลภาพ ส่งเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 15 เดือน ก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ 4. กรณีตาย ส่งเงินสมทบครบ 1 เดือน ภายใน 6 เดือน ก่อนถึงแก่ความตาย 5. กรณีสงเคราะห์บุตร ส่งเงินสมทบครบ 12 เดือน ภายใน 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน 6กรณีชราภาพ 1. บำเหน็จชราภาพ กรณีจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จ เท่ากับจำนวนเงินสมทบเฉพาะส่วนของผู้ประกันตน กรณีจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จเท่ากับจำนวนเงินสมทบส่วนของผู้ประกันตน + นายจ้าง พร้อมผลประโยชน์ทดแทนตามที่กำหนด 2. บำนาญชราภาพ ได้รับบำนาญชราภาพร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย หากมีการจ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน จะปรับเพิ่มขึ้นให้อีกร้อยละ 1.
สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอ่างทอง เลขที่ 2 ถนนเทศบาล 8 ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง 14000 จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์: 0 คน ช่องทางการติดต่อ หากมีข้อสงสัยในการเข้าสู่ระบบ ติดต่อที่ E-mail:
1-5 ซี่ เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นไม่เกิน 1, 300 บาท 2. มากกว่า 5 ซี่ เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นไม่เกิน 1, 500 บาท กรณีใส่ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปาก ได้รับค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 4, 400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ใส่ฟันเทียม ตามหลักเกณฑ์ดังนี้ 1. ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 2, 400 บาท 2. ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 4, 400 บาท ที่มาภาพ: สำนักงานประกันสังคม 2. กรณีคลอดบุตร ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 5 เดือนภายใน 15 เดือน ก่อนเดือนที่คลอดมีสิทธิได้รับค่าคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยมีค่าตรวจและรับฝากครรภ์ดังนี้ - อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ จ่ายในอัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 500 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ จ่ายในอัตรเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300 บาท - อายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 28 สัปดาห์ จ่ายในอัตรเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 200 บาท ที่มาภาพ: สำนักงานประกันสังคม 3. กรณีทุพพลภาพ ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 3 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนเดือนที่ทุพพลภาพ 3. 1. เงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีทุพพลภาพระดับความสูญเสียไม่รุนแรง ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ ดังนี้ - ไม่อาจทำงานตามปกติ และงานอื่นได้ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ในอัตรา 30% ของค่าจ้างรายวันตามมาตรา 57 ไม่เกิน 180 เดือน - ไม่อาจทำงานตามปกติและรายได้ลดลงจากเดิม ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ในส่วนที่ลดลง แต่ไม่เกินอัตรา 30% ของค่าจ้างรายวันตามมาตรา 57 ไม่เกิน 180 เดือน กรณีทุพพลภาพระดับความสูญเสียรุนแรง - ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ในอัตรา 50% ของค่าจ้างรายวัน ตามมาตรา 57 ตลอดชีวิต 3.