พัฒนาระบบประสาทเชื่อมโยงของร่างกาย การจะเล่นวอลเลย์บอลให้ดีตาต้องว่อง เท้าต้องไว มือก็ต้องเร็ว เพราะทุกอวัยวะของร่างกายจะถูกใช้งานพร้อม ๆ กัน ฉะนั้นระบบประสาทเชื่อมโยงจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากขึ้น เป็นการพัฒนาความสามารถของระบบประสาทเชื่อมโยงและระบบประสาทสัมผัส ที่ส่งผลดีต่อการเชื่อมโยงระบบกล้ามเนื้อด้วย 6. ช่วยพัฒนาระบบความคิด กีฬาวอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่แต้มไหลเร็ว ดังนั้นการวางแผนในการเล่นจึงมีความจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้ไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งหากเราฝึกเล่นบ่อย ๆ ไหวพริบในการเดินเกมเพื่อเอาชนะคู่แข่งก็จะถูกพัฒนาไปเรื่อย ๆ ได้ใช้ความคิดในการตรึกตรองและวางแผนอย่างมีระบบมากขึ้นโดยอัตโนมัติ 7. เพิ่มศักยภาพในการออกกำลังกาย ผลการศึกษาจาก Well Source's Aerobic Mile Chart เผยข้อมูลว่า แค่เราเล่นวอลเลย์บอลประมาณ 12 นาที โดยที่เคลื่อนไหวร่างกายอยู่ตลอดเวลา ก็จะใช้แรงเทียบเท่ากับการ วิ่งจ๊อกกิ้ง 1 ไมล์ หรือราว ๆ 1. 6 กิโลเมตร แต่หากเล่นวอลเลย์บอลแบบขำ ๆ ชิล ๆ สัก 20 นาทีก็ได้ออกแรงเท่ากับวิ่งจ็อกกิ้ง 1. 6 กิโลเมตรเหมือนกันค่ะ 8. เพิ่มความคล่องตัว การเล่นวอลเลย์บอลเราแทบจะต้องเคลื่อนไหวร่างกายตลอดทั้งเกม ดังนั้นนอกจากกีฬาชนิดนี้จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังช่วยให้เพิ่มความแอคทีฟให้ระบบการเคลื่อนไหวของร่างกายเราด้วย พร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มศักยภาพโดยรวมของร่างกายได้ดีไม่ต่างจากกีฬาชนิดอื่นหรือการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ เลย 9.
หงายมือทั้งสองข้าง 2. เอามือหนึ่งไปวางช้อนทับอีกมือหนึ่ง 3. รวบมือให้นิ้วหัวแม่มือชิดติดกัน มัด 4. ใช้มือใดมือหนึ่งกำหมัด 5. ใช้อีกมือหนึ่งโอบหมัด 6. ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองชิดติดกัน. กำมือ 7. กำมือทั้งสองข้าง 8. นำมือทั้งสองข้างมาชิดกัน 9. ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างเสมอกัน ท่าการอันเดอร์ 1. ยืนเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่ข้างหน้าห่างกัน ประมาณ 1 ช่วงไหล่ 2 ย่อเข่าลงให้หัวเข่าเลยปลายเท้าเล็กน้อยก้มลำตัวให้หัวไหล่อยู่ในแนวระดับของเข่า 3 ยกส้นเท้าขึ้นเล็กน้อย น้ำหนักตัวอยู่ที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง ตรงบริเวณโคนหัวแม่เท้า ใต้ฝ่าเท้า 4 จับมือในท่าที่ถูกต้อง แขนทั้งสองเหยียดตึง ตามองที่ลูกบอล ทักษะที่2 การส่ง ( เซ็ท) การยกมือทั้งสองในการเซ็ต 1. ยกมือทั้งสองขึ้นประมาณหน้าผาก มือทั้งสองห่างจากใบหน้าประมาณ 1 กำมือ ( 10 เซนติเมตร) 2. กางนิ้วออก กางข้อศอกออกเล็กน้อย ข้อศอกอยู่ระดับเสมอไหล่หรือสูงกว่าเล็กน้อย กางนิ้วออกนิ้วงอเป็น 3เคลื่อนที่ไปที่ลูกบอลจะตกให้ลูกบอลอยู่เหนือศีรษะบริเวณหน้าผาก 4. ย่อเข่า ยกมือให้จุดสัมผัสบอลกับนิ้วมือห่างจากหน้าผาก 20 ซ. ม า ทักษะที 3การตบลูกวอลเลย์บอล 1. การวิ่งเคลื่อนที่เข้าหาจุด 2.
ช่วยคลายเครียด การได้ออกแรง ได้เคลื่อนไหวร่างกายจะทำให้สารแห่งความสุขหรืออะดรีนาลินหลั่งออกมา การเล่นวอลเลย์บอลหรือแม้แต่การออกกำลังกายประเภทอื่นจึงช่วยคลายเครียดให้เราได้ อีกทั้งวอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภททีมที่ต้องเล่นกันหลาย ๆ คน ความสนุกในเกมจึงมีมากกว่าการออกกำลังกายคนเดียวหรือเล่นกีฬาประเภทเดี่ยว และยังทำให้เกิดความเพลิดเพลินในการเล่นเพิ่มขึ้นด้วยล่ะ ภาพจาก Pal2iyawit / 10. เชื่อมสัมพันธ์กับคนรอบข้าง วอลเลย์บอลจะต้องมีผู้เล่น คนในทีม ดังนั้นการพูดคุย การวางแผนเกมการเล่น และความสามัคคีของทีมจะเกิดขึ้นในระหว่างที่เล่นวอลเลย์บอลอย่างแน่นอน ดังนั้นใครที่ไม่ชอบออกกำลังกายคนเดียวเหงา ๆ หรือพออยู่คนเดียวแล้วไม่มีแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย ไปค่ะ... ไป สนามวอลเลย์บอล แล้วฟอร์มทีมมาเล่นวอลเลย์บอลได้เลย! นอกจากประโยชน์ของการเล่นวอลเลย์บอลทั้ง 10 ข้อที่ได้กล่าวมาแล้ว วอลเลย์บอลยังเป็นกีฬาที่ฝึกได้ทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่เด็ก ๆ ยันผู้สูงอายุก็สามารถเล่นวอลเลย์บอลได้ โดยผู้สูงอายุอาจไม่จำเป็นต้องลงสนามแบบเต็มตัว แต่ซ้อมเดาะลูก ซ้อมเซตลูก ก็เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นสุขภาพได้แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณข้อมูลจาก healthfitnessrevolution livestrong เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ยืนให้เท้าใดเท้าหนึ่งอยู่ข้างหน้า เท้าทั้งสองห่างกันพอสบาย ย่อเข่าและก้มลำตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย 2. ก้าวเท้าหน้าไปข้างหลัง 1 ก้าว ก้าวเท้าหลังชิดเท้าหน้า (โดยให้ปลายเท้าหลังแตะส้นเท้าหน้า ใน จังหวะเดียวกันก้าวเท้าหน้าไปข้างหน้าอีก 1 ก้าว วิธีปฏิบัติ ไปข้างหลัง วิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับไปข้างหน้า แต่ให้ถอนเท้าไปข้างหลังแทน (โดยให้ส้นเท้าหน้าแตะปลายเท้าหลัง) ข้อแนะนำ การก้าวเท้าหนึ่งชิดอีกเท้าหนึ่งต้องทำอย่างรวดเร็วในลักษณะสืบเท้าตาย การบริหารร่างกายก่อนการฝึกซ้อมกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อให้ได้ทั้งความเร็วและความอดทน สามารถทำได้ หลายวิธี เช่น ลำดับของการบริหารร่างกาย (ตัวอย่างสำหรับผู้เล่นชาย) 1. วิ่งโยกตัวสลับเท้าซ้าย-ขวา 2. ย่อและกระโดดขึ้น 3. ก้าวด้านหน้าไปทางซ้าย 4. ม้วนตัวไปทางซ้าย 5. ย่อและกระโดดหมุนตัว 6. ก้าวด้านข้างไปทางขวา 7. ม้วนตัวไปทางขวา 8. กระโดดเข่าตีอก 3 ครั้ง 9. กลับหลังหันพุ่งตัว 10. กระโดดเท้าชิด และเท้าแยก สลับกันไปข้างหน้า 5 ครั้ง 11. ก้มถอยหลังใช้นิ้วมือแตะพื้นระยะทางประมาณ 3 เมตร 12. นอนหงาย 13. กระโดดมือแตะปลายเท้า 14. นอนคว่ำ 15. กระโดดแอ่นหลัง 16. พุ่งไปด้านหน้า 17. กระโดดสลับฟันปลา 2 เท้า ถอยหลัง 6 ครั้ง 18.
หงายมือทั้งสองข้าง 2. เอามือหนึ่งไปวางช้อนทับอีกมือหนึ่ง 3. รวบมือให้นิ้วหัวแม่มือชิดติดกัน มัด 4. ใช้มือใดมือหนึ่งกำหมัด 5. ใช้อีกมือหนึ่งโอบหมัด 6. ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองชิดติดกันกำมือ 7. กำมือทั้งสองข้าง 8. นำมือทั้งสองข้างมาชิดกัน 9. ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้างเสมอกัน ท่าการอันเดอร์ 1. ยืนเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่ข้างหน้าห่างกัน ประมาณ 1 ช่วงไหล่ 2. ย่อเข่าลงให้หัวเข่าเลยปลายเท้าเล็กน้อยก้มลำตัวให้หัวไหล่อยู่ในแนวระดับของเข่า 3. ยกส้นเท้าขึ้นเล็กน้อย น้ำหนักตัวอยู่ที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง ตรงบริเวณโคนหัวแม่เท้า ใต้ฝ่าเท้า 4. จับมือในท่าที่ถูกต้อง แขนทั้งสองเหยียดตึง ตามองที่ลูกบอล ทักษะที่ 2 การส่ง ( เซ็ท) 1. ยกมือทั้งสองขึ้นประมาณหน้าผาก มือทั้งสองห่างจากใบหน้าประมาณ 1 กำมือ ( 10 เซนติเมตร) 2. กางนิ้วออก กางข้อศอกออกเล็กน้อย ข้อศอกอยู่ระดับเสมอไหล่หรือสูงกว่าเล็กน้อย กางนิ้วออก นิ้วงอเป็น 3. เคลื่อนที่ไปที่ลูกบอลจะตกให้ลูกบอลอยู่เหนือศีรษะบริเวณหน้าผาก 4. ย่อเข่า ยกมือให้จุดสั มผัสบอลกับนิ้วมือห่างจากหน้าผาก 20 ซ. ม ทักษะที 3การตบลูกวอลเลย์บอล ท่าการตบ 1. การวิ่งเคลื่อนที่เข้าหาจุด 2. เตรียมกระโดดห่างจากจุดที่ลูกบอลตกประมาณ 1 ฟุต 3.
>ทักษะการเสิร์ฟลูกวอลเลย์บอล การเสิร์ฟ ( Service) หมายถึง การส่งส่งลูกเข้าสู่สนามการเล่นโดยผู้เล่นที่อยู่ในตำแหน่งแดนหลังด้านขวาทำการเสิร์ฟในเขตเสิร์ฟและเสิร์ฟโดยใช้มือข้างหนึ่ง เช่น ส้นมือ อุ้งมือ กำหมัด เป็นต้น ตีลูกบอลให้ข้ามตาข่ายเข้าไปยังแดนของผู้แข่งขัน การเสิร์ฟมีความสำคัญต่อการเล่นมาก เพราะคะแนนที่ได้จะได้จากการเป็นฝ่ายเสิร์ฟเท่านั้น หากเสิร์ฟเสียจะเสียสิทธิการเสิร์ฟและหมดโอการที่จะได้คะแนนในครั้งนั้น ดังนั้น ทักษะการเสิร์ฟจึงต้องสนใจศึกษาและฝึกหัดให้ชำนาญเพราะผู้เล่นทุกคนต้องหมุนเวียนไปเป็นผู้เสิร์ฟ ชนิดของการเสิร์ฟที่นิยมมี 3 ชนิด คือ คลิ๊ก คลิ๊ก
การเสิร์ฟลูกมือล่าง 2. การเสิร์ฟลูกมือบน ทักษะที5. การสกัดกั้น ( ป้องกันการตบ) 1. ยืนแยกเท้าออกประมาณ 1 ช่วงไหล่ 2. มือทั้งสองยกขึ้นกางฝ่ามือออก 3. งอเข่าเล็กน้อย 4. ศีรษะตั้งตรงมองไปข้างหน้า 5. กระโดดขึ้นเพื่อสกัดกั้นลูกตบของฝ่ายตรงข้าม
4 ธันวาคม 2563 พูดถึงกีฬาตะกร้อแล้ว หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงลีลาการกระโดดขึ้นฟาดหน้าเน็ตที่ดูแล้วสวยงาม เร้าใจ แต่อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันและถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของกีฬาชนิดนี้ ก็ต้องยกให้ "ลูกเสิร์ฟ" ซึ่งปัจจุบันหลาย ๆ คนก็คงได้เห็นการเสิร์ฟด้วยหลังเท้าที่หนักหน่วงที่สร้างชื่อมาจาก "โจ้" สืบศักดิ์ ผันสืบ ในยุคก่อน จนมาถึงปัจจุบันที่ต้องยกให้ "ยาวปืนใหญ่' สิทธิพงศ์ คำจันทร์ ที่ยกเท้าเสิร์ฟแต่ละทีมีคะแนนให้ได้ลุ้นกันตลอด วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูกันว่า "การเสิร์ฟตะกร้อ" นอกจากหลังเท้าแล้ว มีอะไรอีกบ้าง ลูกเสิร์ฟข้างเท้า - (แม่นยำ - ลูกหมุนรับยาก! )
ตบลูกเพื่อส่งลูกข้ามตาข่าย